วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Macmillan Dictionary


Plane




Love









Squirrel







Song




2[uncountable] the art or activity of singing



3[countable/uncountable] the musical sound that a bird makes





Blood

1the red liquid that flows around inside your body

2the family, nation, or group that you belong to through your parents and grandparents

3used as a way of referring to violence and death



Shop

1[countable] a place where you buy things or where you pay for a service


2[countable] a business where something is made or repaired

3[uncountable] American a school subject in which students learn to work with tools and machines




Egg



1[countable] the round object with a shell that a female bird produces and a baby bird develops in. The mother bird lays an egg, and later the egg hatches and the baby bird comes out



2[countable] a small object produced by a female insect, frog, snake etc, that a young animal comes out of



3[countable] biology a cell produced inside a woman or female animal that develops into a baby if it is fertilized by a sperm (=a male cell)









Couple

1[singular] informal two things or people of the same type



2[countable] two people who are married or involved in a romantic relationship with each other




Smile






3[intransitive] mainly literary if something such as luck or heaven smiles on you, you are successful, or you have good luck













วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

How to paint easter egg ?



Step 1: Choose a Design




  • Once you have decided that you'd like to paint Easter eggs, you need to choose a design. The design you select will dictate what type of paint you will use. Consider decorating your eggs with Easter symbols, like bunnies or chicks. Pastel colors are often used in Easter decorating. And the actual painting can involve everything from food coloring to watercolor paints to acrylics. You can paint on a white egg or dye your eggs before you paint them. It's all up to you!


Step 2: Gather Supplies and Prep the Eggs


Now that you've chosen your design idea for your Easter eggs, you should assemble all the supplies you will need for your project. Depending on the type of design you selected and the type of paint you're using, you will need:




  1. Eggs

  2. Paint

  3. Paint brushes

  4. Newspaper


Now you should prepare the eggs for painting. If you are using real eggs, you have two choices:



  1. Hard boil the eggs

  2. Use blown eggs (to be able to keep your creations forever):

    1. Poke a small hole at each end of the egg with a pin or needle

    2. Break up the yolk with the needle

    3. Gently blow into one end of the egg to allow its contents to come out; you can use:

      1. A rubber ear syringe

      2. A drinking straw

      3. An injection syringe

    4. Wash the inside of the egg out with a combination of vinegar and water

    5. Allow to dry


Step 3: Start Painting


All your supplies are at hand, the eggs you will be painting are in front of you—it is time to paint!






  1. If you are using blown eggs, insert a skewer so you can rotate the egg carefully as you paint your design

  2. Once you have painted one half of the egg, you will need to let it dry before you can finish the other half

    1. Place the half-painted egg carefully in an empty egg container

    2. You can also set the egg on a candlestick holder

    3. Allow plenty of drying time


http://www.mahalo.com/how-to-paint-easter-eggs


Easter


มันช่างเป็นวันที่น่าเศร้าหดหู่ใจสำหรับสหายของพระเยซู ! พวกเขาต่างกำลังเฝ้ามองพระเยซูด้วยความโศรกเศ้ราขณะที่พระเยซูถูกตรึงบนกางเขน พวกเขาต่างไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพระเยซูต้องมาตายเช่นนั้น พวกเขาเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า และจำได้เสมอว่าพระองค์เคยรักษาคนป่วยและทำให้คนตาบอดมองเห็นได้ พวกเขาจำได้ว่า พระองค์เคยเลี้ยงคนหลายพันคนด้วยขนมปังไม่กี่ก้อนและปลาไม่กี่ตัว และยิ่งไปกว่านั้นแล้วยังจำได้ว่าพระองค์ทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้ พระองค์เป็นคนดี และมีเมตตา ทำไมพระองค์ต้องมาตายด้วย ! ?
ก่อนตะวันลับขอบฟ้า โยเซฟ ซึ่งเป็นพระสหายของพระเยซูได้เห็นว่าพระเยซูได้สิ้นลมหายใจแล้ว เขาได้รี่ตรงไปขอพิลาตเพื่อที่จะได้นำพระศพไปฝัง เมื่อพิลาตอณุญาติแล้ว โยเซฟ และนิโคเดมัส (พระสหายอีกคนหนึ่ง)จึงห่อหุ้มพระศพอย่างดีด้วยผ้าที่สะอาด และนำไปฝังที่อุโมงค์แห่งหนึ่ง วันรุ่งขึ้น พวกฟาริสี ซึ่งเป็นพวกที่คิดจะฆ่าพระเยซู ได้ปรึกษาหารือเรื่องพระเยซู คนพวกนี้จำได้ว่าพระเยซูเคยบอกว่าพระองค์จะเป็นขึ้นจากความตายหลังจากสามวันผ่านไป พวกเขาจึงกลัวว่าที่พระเยซูพูดจะเป็นจริง และพวกเขาก็คิดว่าสาวกของพระเยซูคงจำได้เช่นกัน และเกรงไปว่าพวกสาวกจะขโมยพระศพไปเพื่อที่จะอ้างได้ว่าพระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย พวกเขาจึงพากันไปหาพิลาตเพื่อเสนอให้พิลาตสั่งปิดปากอุโมงค์ด้วยหินก้อนใหญ่ และให้มียามเฝ้าปากอุโมงอย่างแน่นหนา
ก่อนฟ้าสางในวันรุ่งขึ้น สิ่งอัศจรรย์ได้บังเกิดขึ้น ! เกิดแผ่นดินไหว และมีฑูตสวรรค์ของพระเจ้าลงมาจากสวรรค์ ฑูตสวรรค์ได้เคื่อนย้ายหินที่ปิดปากอุโมงค์ และได้นั่งบนหินนั้น ฝ่ายยามที่เฝ้าก็เกิดอาการกลัวตัวสั่น และล้มลงบนพื้นดินราวคนตาย ! นางมาเรียและหญิงอื่นๆอีกได้ตัดสินใจตื่นแต่เช้าเพื่อไปที่อุโมงค์ที่ศพพระเยซูถูกวางไว้ ขณะที่กำลังเดิน พวกเขาต่างถกกันถึงวิธีที่จะเข้าไปในอุโมงค์ พวกเขาได้นำเครื่องหอมและเครื่องเทศติดตัวมาด้วยเพื่อชะโลมพระศพพระเยซู พวกเขารู้ว่าที่ปากอุโมงค์มีหินก้อนใหญ่ปิดอยู่ และยังไม่รู้ว่าจะเข้าไปในอุโมงค์ได้อย่างไร

แต่สิ่งอัศจรรย์บังเกิดขึ้นอีก !
เมื่อพวกผู้หญิงไปถึงอุโมง ปรากฏว่าหินที่ปิดปากอุโมงค์ได้ถูกเคลื่อนออกไปแล้ว ! และมีฑูตสวรรค์นั่งบนก้อนหินนั้น เหล่าพวกผู้หญิงต่างก็กลัว แต่ฑูตสวรรค์ได้พูดอย่างอ่อนโยนว่า
"อย่ากลัวไปเลย เรารู้ว่าพวกท่านกำลังหาพระเยซู พระองค์ไม่อยู่ที่นี่แล้ว พระองค์เป็นขึ้นจากความตายตามที่พระองค์เคยกล่าวไว้ เข้ามาดูซื !" พวกผู้หญิงจึงเข้าไปในอุโมงค์ และพบว่ามันว่างเปล่าตามที่ฑูตสวรรค์บอก ฑูตสรรค์จึงกล่าวอีกครั้งว่า "จงรีบไปบอกสาวกและคนอื่นๆว่า พระเยซูได้เป็นขึ้นจากความตายแล้ว และกำลังเสด็จไปที่กาลิลี !ซึ่งท่านจะพบพระองค์ที่นั้น" พวกผู้หญิงได้ทำตามที่ฑูตสวรรค์บอก พวกเขาต่างวิ่งออกจากอุโมงค์ด้วยความกลัวผสมความยินดีที่จะได้แจ้งข่าวดีนี้ แต่เมื่อพวกเธอพบเปโตรและสหายอื่นๆ และได้บอกข่าวดีนี้ ไม่มีใครเชื่อพวกเธอสักคน ! เมื่อพวกผู้หญิงตอกย้ำเรื่องข่าวดีนี้ เปโตรจึงตัดสินใจที่จะไปดูด้วยตนเอง เปโตรได้วิ่งไปที่อุโมงค์และเข้าไปข้างใน เขาได้เห็นแต่ผ้าห่อพระศพ แต่ไม่มีพระศพ ! เขาจึงฉงนท์ว่ามันจะเป็นจริงได้อย่างไร จริงหรือที่พระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย ? พระเยซูยังทรงพระชนม์อยู่อีกหรือ ? สะหายอีกสองคนของพระเยซูกำลังเดินทางไปที่หมู่บ้านชื่อ Emmaus ขณะที่เดินไปคุยไป และถกกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย Cleopas ก็ได้เล่าให้ชายคนนั้นฟังถึงการที่พระเยซูถูกตรึงบนกางเขน พวกเขาได้เล่าให้ชายคนนั้นฟังว่าพวกผู้หญิงได้ไปที่อุโมงค์และพบว่าอุโมงค์ว่างเปล่า และแล้วพวกเขาได้เชิญชายผู้นั้นให้มาร่วมรับประทานอาหาร
เมื่อทุกคนนั่งลงบนโต๊ะอาหาร ชายผู้นั้นได้หยิบขนมปังและหักออกเป็นชิ้นๆ และชายคนนั้นได้อฐิษฐานสำหรับอาหารและแจกจ่ายให้ทุกคน ณ ที่นั้น เท่านั้นแหละ ! พวกเขา ณ ที่นั้นจึงตระหนักได้ว่าชายผู้นี้คือพระเยซู ! เขาได้คุยกับพระเยซูมาตลอดเส้นทาง แต่หารู้ไม่ว่าเป็นพระเยซู

มีสิ่งประหลาดอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้น

เมื่อพวกเขารู้ว่าชายคนนั้นคือพระเยซู พระเยซูก็อันตราธาน พวกเขาต่างคุยกันด้วยความมันที่ได้เดินคุยกับพระเยซู พวกเขาอดไม่ได้ที่จะพูดถึงการหายตัวไปอย่างลี้ลับของพระเยซู
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พวกเขาต่างกลับไปที่เยรูซาเล็มเพื่อประกาศว่าพระเยซูเป็นขึ้นจากความตาย และได้คุยกับพวกเขาด้วย !
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน พระเยซูปรากฏให้เห็นอีก พวกเขาตกใจ และคิดว่ากำลังเห็นผี ! แต่พระเยซูบอกพวกเขาว่าไม่ต้องตกใจกลัว และพระองค์ได้แสดงรอยแผลที่มือและเท้าซึ่งถูกตะปูตรึงบนกางเขนเพื่อพวกเขาจะได้เชื่อว่ามันเป็นพระองค์ ไม่ใช่ผี
เมื่อพวกเขาได้เห็นรอยตะปูที่มือและเท้า พวกเขาจึงเชื่อว่าพระเยซูได้เป็นขึ้นจากความตายจริงๆตามที่พระองค์เคยบอก พวกเขาต่างปลื้มและยินดีที่ได้พบสะหายอีก พวกเขาตื่นเต้นจนต้องบอกทุกคนว่า พระเยซูทรงพระชนม์อยู่ !









What an awfully sad day it had been for the friends of Jesus! They had stood watching sorrowfully, as Jesus hung on the cross dying. They didn't fully understand why it had to happen.



They believed that Jesus was the Son of God, and they remembered how He had healed the sick and made blind people see. They remembered how He had fed thousands of people with just a few loaves of bread and fish. They even remembered how He had caused dead people to come back to life. He was such a good, kind man; why did He have to die?



Just before the sun was beginning to sink into the west, Joseph, one of Jesus' friends, noticed that Jesus was no longer breathing. He hurriedly went to ask Pilate if he could have the body of Jesus so he could bury Him. When Pilate agreed, Joseph and Nicodemus (another friend) carefully wrapped Jesus' body in clean cloths. Then they took Him to a tomb to bury Him.



The next day, the Pharisees started thinking about Jesus. They were the people that had wanted to kill Jesus. They remembered how He had taught them, saying that He would rise again after three days. They were worried that it might be true! They also thought that Jesus' disciples would remember and might try to steal the body from the tomb just so they could say that Jesus rose again. They went to Pilate, suggesting that the tomb be closed up with a huge stone and that guards be placed all around the tomb.



Just before daylight the next day, the most amazing thing happened! There was a GREAT EARTHQUAKE! An ANGEL from the Lord came down from heaven, moved the gigantic stone away from the door of the tomb and sat on it. The guards began to shake with fear! They fell down to the ground as if they were dead!



Mary and some other women had decided to get up very early in the morning and go to visit the tomb where Jesus was placed. While walking down the road, they were discussing how they were going to get inside the tomb. They had brought along some spices and perfume that they wanted to place on Jesus' body. They knew the huge stone had been placed in the doorway and they had no idea how they were going to move it.



What a SURPRISE they found when they reached the tomb! The stone had already been moved! And . . . there was an ANGEL sitting on the stone! The women were quite afraid, but the angel spoke gently to them:



"Don't be afraid. I know that you have come to see Jesus. He is not here; for he is risen just as he said. Come inside and see the place where he lay."



The women went inside the tomb and found it empty, just as the angel had told them.



The angel spoke to the women one more time:



"Go quickly and tell the other disciples that Jesus has risen from the dead; and he is going into Galilee where you will see him."




The women did just as the angel had told them. They ran quickly from the tomb, with fear and great joy, to tell the good news to the other disciples. But . . . when the women found Peter and their other friends and tried to tell them the good news, . . . no one believed them!



When the women persisted, Peter decided that he needed to find out for himself.



He ran all the way to the tomb.



He went inside.



He saw the cloths that had been wrapped around Jesus, but the body was not there.



He wondered if it could possibly be true. Did Jesus really raise from the dead? Was Jesus really alive?



Two of Jesus' other friends were going on a journey to a village called Emmaus. As they walked and talked, they discussed all the things that had happened over the past few days. A man came along and joined the group. He walked along with them and wanted to join their discussion. Cleopas began telling the man about how Jesus was crucified on the cross. They talked about how the women found the empty tomb.



As they continued their journey, they invited the man to come in with them and have dinner. When they sat down to eat their meal, the man picked up a loaf of bread and broke it in pieces. Then he prayed for the meal and gave the bread to the men. At that very moment they realized that the man was JESUS! They had been talking to Jesus the whole time and didn't even know it!




Then . . . ANOTHER strange thing happened. As soon as they realized who it really was that sat at the table with them . . . Jesus disappeared! They talked about the wonderful time they had talking with Jesus down the road, and they just couldn't help talking about his strange disappearance. They got up from their meal and returned to Jerusalem where they told all the other disciples the good news that Jesus REALLY DID raise from the dead and had talked with them.



As they were talking, Jesus again appeared to them. They were afraid and thought they were seeing a ghost, but Jesus told them not to be afraid. He showed them His hands and feet where He had been nailed to the cross, so they would believe that it was really Him.



When they saw the nail holes in His hands and feet, they finally believed that Jesus had risen from the dead, just like He said He would. They were so happy and joyful to have their friend with them again. They were so excited that they had to tell EVERYBODY the good news that JESUS IS ALIVE!